วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551

คติสอนหญิง

ความรู้มากๆๆ บางทีเหมือนกำแพงอิฐที่เรียงตัวสูง
ความรู้สูง กำแพงสูง ความรู้รอบด้าน ก็เหมือนกำแพงสูงรอบตัว
บางครั้งมันอาจทำให้มองออกไปไม่เห็นอะไร
นอกจากอิฐที่ตนเอง ก่อขึ้นมา

กลิ่นของความรัก ก็เช่นเดียวกับห้องน้ำ
เข้าไปแรกๆๆจะรู้สึกว่าได้กลิ่น
อยู่ในนั้นนานๆๆ ไปจะเคยชิน จนลืมว่ามีกลิ่นนั้นอยู่
จนกว่าจะออกมาจากบริเวณนั้น และกลับเข้าไปใหม่

ถ้าเรารักใครซักคน
เราควรเปิดโอกาสให้เค้าได้ทำผิดหลายๆๆครั้ง
เพราะเราเองก็ต้องการโอกาสอย่างนั้นเช่นกัน

อย่าบอกเลยว่าเป็นคนดี
ความหยิ่งยโส ก็มีอยู่ในคนถ่อมตัว
ครูที่สอนนักเรียน ก็มีความโง่ ซ่อนอยู่
ความขลาดกลัว ก็มีอยู่ในนักมวยแชมป์โลก
ความเบื่อหน่าย ก็มีอยู่ในพนักงานที่ต้อนรับที่กระตือรือร้น
ความเห็นแก่ตัว ก็มีอยู่ภายในใจของนักสังคมสงเคราะห์
มันอยู่คู่กัน รอวันปรากฏตัวออกมา

ถ้าสันดานห่วยๆๆ มันเป็นกระดาษ
เรามีแค่หินทับกระดาษคนละก้อน
ลมกิเลสพัดมา ก็ขึ้นกับว่าก้อนหินของใครก้อนใหญ่พอที่ทับมันไว้
ไม่ให้ปลิวเพ่นพ่านเท่านั้นเอง..
http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=cm&id=359

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ความรู้สึกที่มีต่อการเรียนวิชาเตรียมฝึกประสบการวิชาชีพ

ความรู้สึกที่มีต่อการเรียนวิชานี้ก็แบบว่าเหมือนเราได้กลับไปเรียนมัธยมเลย ด้วยความรู้สึกที่ว่าคือต้องแต่งกายให้ถูกระเบียบของทางมหาวิทยาลัย แต่ก็ทำให้เราดูดี มีสง่ามากขึ้นนะ อีกเรื่องหนึ่งที่รู้สึกว่าจะวุ่นวายมากๆเลย คือการเข้าแถวก่อนขึ้นห้องในการเรียนวิชาเตรียมฝึกฯ การเข้าแถวต้องเรียงตามรหัสนักศึกษา ตอนแรกก็ดูจะสับสนไปหมดว่าเราจะเข้าตรงไหนแต่พอนานๆเข้าทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเข้าที่ เป็นระเบียบมากขึ้นทำให้กิจกรรมการเรียนการสอนเริ่มเร็วมากขึ้น และที่สำคัญได้กลับบ้านเร็วขึ้นด้วย ในการเรียนวิชานี้ทำให้เรารู้อะไรหลายอย่าง ประวัติพอสังเขปของมหาวิทยาลัย การประกันคุณภาพการศึกษา การดำเนินกิจกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน การบริหารการเงินส่วนบุคล ว่าเราทำไมจะต้องมีการออม เงินออมมาจากไหน เช่นการที่เราอยากจะมีเงินออมเพิ่มมากขึ้น เรามีวิธีโดยการลดรายจ่าย เห็นได้ง่ายๆจากในชีวิตประจำวันของเรา เราก็จะลดการซื้อสินค้าประเภทสินค้าสินเปลืองก็พวกเครื่องสำอาง กระเป๋าเสื้อ เสื้อผ้า หรือสิ่งของที่ไม่จำเป็น
การพัฒนาบุคคลิกภาพ การแต่งกายการมีกริยามารยาทที่ดีในการเข้าสังคม และการฝึกทักษะภาอังกฤษและเทคโนโลยี

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ประวัติส่วนตัว

ชื่ออันไพเราะ นางสาวกาญจนา ภูผาสุข
วันเกิด : 6 ตุลาคม 1987 กรุ๊ปเลือด : AB ราศี : ตุลย์
การศึกษา : จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนศรีเมืองวิทยาคาร จังหวัดอุบลราชธานี
ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิตชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาการจัดการ โปรแกรมบริหารธุรกิจ แขนงคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
ที่อยู่ปัจจุบันที่สามารถติดต่อได้ 600/17 ซ.สาธุประดษฐ์ 52 ถ.สาธุประดิษฐ์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา
นิสัยโดยส่วนตัว:ร่าเริงแจ่มใส ชอบความสนุกสนาน
สีที่ชอบ : แล้วแต่สถานการณ์...
อาหารที่ชอบ :ส้มตำ ไก่ย่าง
แนวดนตรีที่ชอบ : แล้วแต่อารมณ์...
สถานที่ที่อยากจะไป :ทั่วประเทศไทย
ประเทศที่อยากไป : ทิเบต ฝรั่งเศล
เรื่องที่แย่ที่สุด : "การสูญเสียคนสำคัญที่สุดในชีวิต"
ความใฝ่ฝันสูงสุด : เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว
เรื่องวันวานยังหวานอยู่ :การได้อยู่กับครอบครัว
คติประจำใจ:ทำวันนี้ให้ที่สุด

เตือนผู้บริโภคระวังภัยจากฟอร์มาลินในอาหาร

ในปัจจุบันได้มีการตรวจบ่อยครั้งว่า มีการใช้น้ำยาฟอร์มาลินแช่ผัก แช่ปลา และเนื้อสัตว์บางอย่าง ตามที่เป็นข่าวอยู่เสมอๆ นั้นเรามารู้จักฟอร์มาลินว่ามันคืออะไร ใช้ทำอะไร และมีอันตรายมากน้อยเพียงใด รศ.ดร.ทรงศักดิ์ ศรีอนุชาต รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ ม.มหิดล เผยว่า ฟอร์มาลินเป็น สารละลายของสารเคมีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ฟอร์มาลดีไฮด์ นั้นปรกติจะเป็นแก๊ส ไม่มีสี มีกลิ่นฉุนมาก แสบจมูกเมื่อทำเป็นสารละลายแล้ว ดังนั้นเมื่อเปิดขวดออกจะมีกลิ่นฉุนเช่นเดียวกัน สถานที่ใช้ฟอร์มาลินกันมากคือในโรงพยาบาล สำหรับดองศพ และเนื้อเยื่อต่างๆ นอกจากนี้ยังพบมีการใช้เป็นน้ำยารักษานื้อไม้สำหรับป้องกันแมลง เช่น ในการทำปาติเลสที่ประกอบเป็นตู้ โต๊ะ และเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ต่างๆ โดยเฉพาะตู้เสื้อผ้าจะสังเกตุได้ว่าถ้าเปิดตู้ใหม่ๆจะมีกลิ่นฉุนจมูกมาก นั่นคือกลิ่นฟอร์มาลินนั่นเอง นอกจากนี้ ยังพบมีการใช้ในการทาสี กาว ทำกระดาษ และอื่นๆ จึงสรุปได้ว่า ฟอร์มาลินนั้นใช้สำหรับทางการแพทย์และอุตสาหกรรมเท่านั้นไม่มีจุดประสงค์ให้ใช้ในอาหารเลย สำหรับอันตรายของฟอร์มาลินหรือสารฟอร์มาลดีไฮด์นั้นจะให้ความเป็นพิษหลายอย่างถ้าใช้ไม่ถูกต้อง หรือสัมผัสบ่อยและมากเกินไป ถ้ากินเข้าไปจำนวนมากราว 60-90 ซีซี ก็ตายได้ โดยมันจะไปทำให้เซลต่างๆหยุดทำงาน และทำให้เซลของร่างกายตายได้ ถ้าหายใจเข้าไปมากๆ ก็จะระคายเคืองต่อตาและระบบทางเดินหายใจ มีน้ำตาไหล ปวดศรีษะ นอนไม่หลับและอาจเบื่ออาหารซึ่งทั้งหมดเป็นผลของฟอร์มาลดีไฮด์ต่อระบบประสาท อย่างไรก็ตามการกินหรือการหายใจเข้าไปเพียงเล็กน้อยก็คงจะไม่พบอาการต่างๆเหล่านี้ ที่สำคัญคือองค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติของสหประชาชาติได้ประเมินแล้วพบว่า การวิจัยบางอันแสดงว่า ฟอร์มาลดีไฮด์ทำให้สัตว์ทดลองเป็นมะเร็งได้ โดยเฉพาะโพรงจมูก (ไซนัส) และมะเร็งหลอดลม แต่การเกิด มะเร็งในคนนั้นยังไม่ยืนยันดังนั้น จึงเพียงสงสัยว่าจะทำให้เกิดมะเร็งได้จึงไม่สมควรที่จะสัมผัสมากและบ่อยเกินไป รศ.ดร.ทรงศักดิ์กล่าวด้วยว่า การที่นำน้ำยาฟอร์มาลินมาแช่ผัก แช่ปลาหรือเนื้อสัตว์นั้นเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่งเพราะทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออันตรายต่อผู้ใช้และผู้บริโภคได้ ถ้าชื้อผักหรือเนื้อสัตว์มาแล้วสงสัยว่าจะมีการแช่ฟอร์มาลินอาจจะใช้การดมกลิ่น หรือดูลักษณะของผักและเนื้อสัตว์ว่ามีลักษณะแข็งผิดปรกติหรือไม่ แต่ถ้ายังไม่แน่ใจอีกก็ต้องใช้วิธีล้างน้ำสะอาดหลายๆครั้งจะช่วยลดปริมาณฟอร์มาลินที่ติดอยู่ลงไปได้ และถ้านำไปหุงต้มด้วยก็จะลดลงไปอีก ส่วนที่ติดอยู่กับอาหารคงจะมีปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีการรณรงค์ไม่ให้มีการใช้ในอาหาร และจะต้องมีการตรวจสอบควบคุมและดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ใช้อย่างเคร่งครัดต่อไป



http://www.ozonicinter.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=27092&Ntype=2